China: Beijing-Hong Kong-Macao

กรุงปักกิ่ง - Beijing

บทนี้จะพูดถึงประเทศที่ยิ่งใหญ่ทั้งเนื้อที่และจำนวนประชากรอยู่ในเอเซียตะวันออก คือ ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ รวมทั้งฮ่องกง (Hong Kong) และมาเก๊า (Macao) พาแม่ไปกรุงปักกิ่งครั้งแรกเดือนพฤศจิกายนปี 2006 ตอนช่วงเข้าหน้าหนาวดูอุณภูมิว่า 10 องศาเซลเวียส ที่ไหนได้เจอไป -3 หนาวค่ะหนาว ปิดหูปิดตาปิดจมูกปิดปากกันทั้งแม่ทั้งลูก ถ่ายรูปออกมาแทบจะจำกันไม่ได้ตอนนั้นไปกับทัวร์ ปักกิ่ง 5 วัน 4 คืน จัตุรัสเทียนอันเหมิน-พระราชวังกู้กง-พระราชวังฤดูร้อนอี้เหอหยวน-หอฟ้าเทียนถาน-วัดลามะ-กำแพงเมืองจีน-พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง-ช้อปปิ้งตลาดรัสเซีย หวังฟู้จิ่ง-ชมกายกรรมปักกิ่ง-ภัตตาคารเป็ดปักกิ่ง-สุกี้มองโกล สรุปว่าจาการคำนวณดูแล้วไปทัวร์ค่อนข้างคุ้มเพราะตั๋วเครื่องบินอย่างเดียวก็ 15,000 บาทแล้ว ซื้อแพ็คเกจทัวร์ กินดี อยู่ดี มีคนพาเที่ยว และเล่าประวัติศาตร์จีนสมัยต่างๆให้ฟัง ไม่ต้องทำการบ้านมาก 5 วันไม่ถึง 20,000 บาท ราคาอาจแตกต่างแล้วแต่บริษัท คุ้มราคา ยังงัยก็ก็จัดเองสู้ไม่ได้ แต่ต้องบอกว่า ไปกับทัวร์เหนื่อยตรงโปรแกรมค่อนข้างแน่น สูตร '5-6-7' แปลว่าตื่น ตีห้า กินข้าวหกโมง รถออกเจ็ดโมง วันหลังๆก็ค่อยดีขึ้นเป็น '6-7-8' จนวันสุดท้ายเป็น '7-8-9' ยังดีที่อยู่เมืองเดียว นอนโรงแรมเดียวทุกวันไม่งั้นคงเก็บกระเป๋ากันเหนื่อย บางทีอาจเป็นชะโงกทัวร์ 'ฉี่ ช้อป แชะ' และแวะลงซื้อของเยอะไปหน่อย โดยเฉพาะโรงงานต่างๆ สาธิตและดูคล้ายปิดประตูตีแมวให้ซื้อ ถ้าไม่สนใจต้องใจแข็งหน่อย ไม่ซื้อเขาก็ไม่ว่า ทัวร์กลุ่มละเกือบ 20 คนก็คงมีคนสนใจ

เทียนอันเหมิน (Tian'anmen) ซึ่งแปลว่าประตูสู่สวรรค์ เป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลก สัญลักษณ์ ของประเทศจีน ซึ่งเป็น สถานที่จัดพิธีฉลองเนื่องในโอกาสสำคัญต่างๆ บริเวณนั้นยังเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์วีรชน หอระลึกประธานเหมาเจ๋อตุง เทียนอันเหมินติดกับประตูทางเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามอีกด้วย จตุรัสเทียนอันเหมินมีความสำคัญเนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องทางการเมือง และการประท้วงในหลายยุคหลายสมัย

พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) 'กู้กง' (Gugong) เป็นสถานที่ว่าราชการและที่ประทับของจักรพรรดิ์ ในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง เนื้อที่กว่า 720,000 ตารางกิโลเมตร สร้างมาแล้วกว่า 500 ปี เป็นโบราณสถานที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ มีอาคารเครื่องไม้ประกอบด้วยห้องถึง 9,999 รวมทั้งตำหนักว่าราชการ ห้องบรรทม ปัจจุบันเป็น พิพิธภัณฑ์ พระราชวังต้องห้ามได้รับประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก

พระราชวังฤดูร้อนอวี้หยวน (The Summer Palae/Yíhé Yuán) ของพระนางซูสีไทเฮา เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน ติดกันเป็นทะเลสาปจำลองที่ขุดขึ้น มีเรือหินอ่อนที่สวยงาม ระเบียงทางเดินทอดยาวสีสันสวยงาม

หอฟ้าเทียนถาน (Temple of Heaven) ของลัทธิเต๋า ซึ่งก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ใช้เวลาสร้างถึง14 ปี ในช่วงใกล้เคียงกับพระราชวังต้องห้าม ที่นี่เคยใช้เป็น สถานที่ประกอบพิธีกรรมบวงสรวงเทพของจักรพรรดิสมัยก่อน เพื่อคุ้มครองประชาชาจีนในเรืองความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธ์ วัดลามะ (The Yonghe Temple/Lama Temple) ศาสนสถานที่มีพระพุทธรูป ซึ่งทำจากไม้จันต้นเดียวซึ่งเป็นไม้ยืนที่สูงที่สุดในโลก

กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก มีความยาวมากกว่า 10,000 ลี้หรือ 6,000 กิโลเมตร สร้างขึ้นครั้งแรกกว่า 2,000 ปีก่อน โดยจักรพรรดิ์จิ๋นซี ผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น สร้างด้วยแรงงานคนเป็นจำนวนมาก


นอกจากไปเยี่ยมชมโบราณสถานแล้ว ไฮไลต์ทัวร์นี้ก็เน้นการช้อปปิ้ง ทั้งรายการเข้าชมสินค้าผ้าไหมจีน โรงงามไข่มุก โรงงานผลิตหยก โรงงานผลิตชาต่างๆ ศูนย์วิจัยทางการแพทย์โบราณ บัวหิมะรักษาแผลไฟไหม้ ผีเซี๊ยะซึ่งเชื่อว่านำโชคลาภ ส่วนไปช้อปปิ้งหวังฟู่จิ่ง กับตลาดรัสเซียซึ่งจะเน้นไปทาง เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าเลียนแบบของมียี่ห้อ การต่อรองราคาก็ค่อนข้างเหนื่อย ได้ข่าวว่าราคาลดได้กว่า 70% แล้วแต่ความสามารถในการต่อรอง ถ้าต่อไม่เอาแล้วเดินออกอาจโดนฉุดกระชากกลับมา จนได้ชองจนได้ แต่ระยะหลังประเทศจีนระวังเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้น แต่ก็ร้านก็ยังหาทางได้โดยใช้สติกเกอร์ปิด หรือให้เอาแค็ทตาล็อกให้เลือกแล้ว วิ่งไปเอาของในโกดัง อีกอย่างถ้าซื้อแล้วกลับมาที่รถต้องทำใจถ้าเพื่อนร่วมทัวร์ซื้อได้ถูกกว่า ขึ้นอนู่กับความสามารถส่วนบุคคล

ระหว่างนั่งรถในเมืองจะสังเกตว่า ปักกิ่งมีตึกรระฟ้ามากพอสมคาร เห็นชัดคือตึก สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางแห่งชาติ (CCV) โดยเฉพาะในย่านธุรกิจ ตึกสร้างเร็วมากด้วยกำลังคนมาก ตึกข้างโรงแรมที่พักกำลังจะโดนรื้อ ไม่กี่วันก็ราบเป็นหน้ากลอง ระบบการเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินก็สะดวก โดยเฉพาะหลังกีฬาโอลิมปิก ลืมบอกไปว่าตอนนั้นไปปีก่อน ก็เลยไม่ได้เห็นสนามกีฬา เท่ทีทราบมาออกแบบเลียนคล้ายโคลีเซียมของกรุงโรม โดยสถาปนิกชาวสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลักษณะข้างนอกดูแล้ว คล้ายรังนก

ไปกรุงปักกิ่งครั้งที่สองปีถัดไป เดือนกันยายน ปี 2007 ไปประชุม หนีบแม่ไปนอนเป็นเพื่อนที่โรงแรม และที่พัก มีบ่อน้ำร้อน สปารีสอร์ทที่มีชื่อเสียง JiuHua Spa & Resort http://www.jiuhua.com.cn/enindex.asp กว้างมากภายในรถไฟลอยฟ้าระหว่างตึก ที่ประชุมก็ใหญ่ บ่อน้าแร่มีมากกว่า 20 บ่อ บ่อดินโคลน บ่อสมุนไพร ห้องอบผนังหิน ห้องอบผนังหยก สระบัว ทรายบำบัด บ่อหยินหยาง สปา ห้องนวด นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำแร่ บ่อเล็ก บ่อน้อยมีอุณหภูมิหลายระดับ

ได้ยินมาว่าเที่ยวเมืองจีน 10 ปีก็ไม่หมด มีที่ให้ดูหลากหลาย ซึ่งมีทัวร์ที่จัดจากประทเศไทยสะดวก ไม่ว่าจะเป็นความทันสมัยของเขตเศรษฐกิจพิเศษเซี่ยงไฮ้ (Shanghai) เมืองฮังโจว (Hangzhou) ซูโจว (Suzhou) ดูทหารหินที่เมืองซีอาน (Xian) ไปดูความสวยงามของคุนหมิง (Kunming) กุ้ยหลิน (Guilin) ทานอาหารของมลฑลยูนาน (Yunnan) หรือจะสู้ความหนาวไปดูเทศกาลน้ำที่เมืองฮาร์บิ้น (Harbin) แต่ที่วางแผนจะไปครั้งต่อไปคือ อุทยานแห่งชาติจิวไจ้โกว (JieJaiGou) ทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน (Szechuan) สภาพภูมิประเทศที่มีความแตกต่าง ความงามของทิวทัศน์ ที่มีเงาสะท้อนน้ำที่ทะเลสาบกระจก สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม

ฮ่องกง มาเก๊า HongKong Macao

พาแม่ไปเที่ยวฮ่องกง มาเก๊าครั้งแรกกับทัวร์ จริงๆแล้วไปเองก็ไม่ยาก โดยเฉพาะคนไทย สามารถเดินทางเข้า ฮ่องกงมาเก๊าโดยไม่ต้องทำวีซ่า และอยู่ในมาเก๊าได้คราวละไม่เกิน 30 วัน แด้วยความสะดวก ก็เลยเลือกทัวร์ 4 วันเขาวิคทอเรียพีค-หาดรีพัสเบย์-ช้อปปิ้งจิมซาจุ่ย-ดิสนีย์แลนด์-โบสถ์เซนต์พอล-เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล-วัดอาม่า-เซนาโดสแควร์-มาเก๊า-เวเนเชียน แถมช้อปปิ้งมาบุญครองจีนที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ(Shenzhen) มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมีโรงงานเยอะมาก ต้องบอกว่าเป็นทัวร์มาราธอน เปลี่ยนเมือง แพ็คกระเป๋าทุกวัน เข้าแถวด่านตรวจคนเข้าเมืองจนเหนื่อย โดยเฉพาะเข้าแผ่นดินใหญ่ไปเซินเจิ้น

หลังจากลอดอุโมงค์ที่เชื่อมฝั่งเกาลูนกับเกาะฮ่องกง ชมทิวทัศน์ ผ่านย่านธุรกิจการค้า ที่แรกที่ลงคือ หาดรีพัลส์ Repulse Bay ที่เกาะฮ่องกง ไปนมัสการขอพรเจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ขอพรเรื่องคู่ครอง ขอพรเรื่องลูก ขอพรเรื่องการเล่าเรียน วิคตอเรียพีค เพื่อขึ้นชมวิวบนเขา ช้อปปิ้ง ณ ถนนนาธานและถนนจิมซาจุ่ย อาทิ แฟชั่นเสื้อผ้า เกาะลันเตาซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเกาะฮ่องกง ไหว้พระที่ วัดหวังต้าเซียน เป็นวัดที่มีอายุกว่าครึ่งศตวรรษรายล้อมด้วยอาคารที่พักอาศัยของการเคหะต่างๆ

ดิสนีย์แลนด์ฮ่องกง ฟรีเครื่องเล่นทุกชนิด รู้สึกกลับเป็นเด็กอีกครั้ง ข้างในแบ่งเป็น 4 ส่วนหลัก MAIN STREET USA ซึ่งมีร้านค้าขายของที่ระลึก และร้านอาหาร ขบวนพาเหรด TOMORROW LAND อนาคตอันทันสมัย FANTASY LAND เมืองเทพนิยาย ADVENTURE LAND ดินแดนแห่งการผจญภัยดูโชว์ Lion King ก่อนปิดสวนสนุก 30 ก็ปิดด้วยโชว์พลุไฟแต่พวกเราหนีไปช็อปปิ้งในเมืองซะก่อน

เดินทางจากฮ่องกงโดยเรือเฟอรี่ Star Ferry ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ไปถึงมาเก๊า
ต้นศตวรรษที่ 16 ชาวโปรตุเกสได้เดินเรือเข้ามายังคาบสมุทรแถบนี้ชาวโปรตุเกสได้นำพาเอาความเจริญรุ่งเรืองทางด้านสถาปัตยกรรมและ ศิลปวัฒนธรรมของชาติตะวันตกเข้ามาอย่างมากมายทำให้มาเก๊ากลายเป็นเมืองที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก ดูจากรูปปั้นองค์เจ้าแม่กวนอิมริมทะเล ซึ่งเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมประทับยืน บนโคมทรงดอกบัว มีความสูง 18 เมตร หนักเกือบ 2 ตัน ซึ่งคล้ายพระแม่มารี เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้โปรตุเกสสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับมาเก๊าในโอกาสส่งมอบเกาะมาเก๊าคืนให้กับจีน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง ภายใต้รูปปั้นมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงถึงประวัติความเป็นมาของเจ้าแม่กวนอิมองค์นี้

วัดอาม่า (A-Ma Temple) ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับอาม่า องค์เทพทิดาแห่งท้องทะเล

ด้านหน้ามีรูปปั้นสิงห์โตอยู่ 2 ตัว ไฮไลต์ของเมืองมาเก๊าคือโบสถ์เซ็นปอล (Ruins of St. Paul's Cathedral) สร้างขึ้นต้นศตวรรษที่ 17 เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของมืองมาเก๊า ค.ศ.1835 เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงเหลือแต่ซากประตูโบสถ์ด้านหน้า ช้อปปิ้งศูนย์การค้าสำคัญของมาเก๊า หรือเซ็นเตอร์พอยท์มาเก๊า เซนาโด้สแควร์ (The Senado Square) เสี่ยงโชคบ่อนคาสิโนขนาดใหญ่ เดอะ เวเนชี่ยน ลาสเวกัสแห่งใหม่ของเอเชีย (The Venetian)