4/29/2009

Greece and Turkey

หลังจากกลับมาจากประเทศอียิปต์ครั้งแรกเดือนมีนาคม 2004 ติดใจมากอยากเห็นประเทศอื่นที่มีประวัติศาสตร์ต่อจากนั้น ที่ไม่ไกลจากกรุงเจนีวามาก สองประเทศที่นึกถึงคือประเทศกรีก และตุรกี (รวมทั้งกรุงโรมที่จะกล่าวถึงในบทต่อไป)

หลังจากทราบว่าจะไปไหน ต่อไปก็คือไปกับใคร ตอนนั้นมีเพื่อนสนิทที่ทำงานชื่อ Carol เป็นชาวฟิลิปปินส์ ทำงานด้านคอมพิวเตอร์ดีไซด์ที่องค์กร วิธีการไป สำหรับกรีก พวกเราดูจาก SwissAir ที่มีตั๋วลดราคานาทีสุดท้าย ประกาศวันพุธ เพื่อเดินทางวันศุกร์ ตอนนั้นพวกเราไปต้นเดือนพฤษภาคม

Greece - The Hellenic Republic

ประเทศกรีกหรือชื่อเป็นทางการว่า the Hellenic Republic ซึ่งเป็นที่มาของนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงเช่น Aristotle, Plato, Socrates ซึ่งมีความสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ตอนนั้นไปลงที่กรุงเอเธนส์ (Athens) แล้วก็กะว่าจะไปซื้อทัวร์ท้องถิ่นกัน ความทรงจำที่เด่นขัดคือ Acropolis ที่ตั้งเด่นง่ามองลงมาเห็นทั้งเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารพาเธนอน (Pathenon) สร้างเป็นเกียรติแก่เทพเอเธนนา ลงมาข้างล่างก็จะเป็นย่านที่มีชื่อเสียงชื่อ Plaka ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านศิลปะ และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร และแผงขายอาหาร (tavernva) มองไปเห็นวิว Acropolis ใกล้กันจะมี ร้านขายของเต็มไปหมด มีสีสันมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน

ตอนนั้นพวกเราตอนปี 2004 ซึ่งเป็นปีที่ประเทศกรีกเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน จริงๆแล้วประเพณีการจัดเกมส์โอลิมปิก ก็มีที่มา ตั้งแต่เกือบสองพันปีก่อน เมืองโอลิมเปีย และถือประเพณีจัดทุ 4 ปี ตอนนั้นจำได้ว่า สัญลักษณ์โอลิมปิก 2004 เป็นรูปก้านของใบโอลิฟ (olive) เป็นวงกลม เหมือนที่ใส่บนศีรษะ ส่วนตุ๊กตาสัญลักษณ์ (mascot) พี่น้อง ชื่อ Athina (ชื่อตามเทพเอเธนนา แห่ง ความเฉลียวฉลาดและกลยุทธ์) and Fivos (ตั้งชื่อตามเทพ Phoebus แห่งแสง และดนตรี) ซึ่งต้นแบบมาจากดินโคลน ซึ่งเป็นของเล่นโบราณ

ไปประเทศกรีกไม่พูดถึงอาหารการกินคงจะไม่ได้ อาหารกรีกเป็นตัวอย่างของ อาหารแบบเมดิเตอเรเนียน (Mediterranean) ซึ่งใช้ส่วนประกอบที่สดจากท้องถิ่น โดยเฉพาะน้ำมันมะกอกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น moussaka ซึ่งทำจากมะเขือยาว สลัดกรีก Greek ซึ่งมีแตงกวา พริกหยวก มะกอก ชีสfetta และโยเกิร์ต ที่ไม่แนะนำไม่ได้คือ Souvlakis ซึ่งเป็นแฮมเบอร์เกอร์ของกรีก ทำจากเนื้อวว เนื้อแกะสียบย่าง พอสุกแล้วแล่เป็นชิ้นๆ วางบนขนมปัง ใส่ ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ หัวหอม แตงกวาโยเกริต์เปรี้ยวๆ แก้เลี่ยน ยางคนอาจรู้จักในชื่อของ กีโร หรือไกโร (gyro) เพราะแระเทสกรีกเป็นเกาะซะเยอะ อาหารทะเลหนาแน่นและสดมาก ที่ติดใจมากคือ ปลาหมึกทอด (calamari) ปลาหมีกหนวด (octopus) ในน้ำมันมะกอก และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีชื่อเสียงคือ ouza ชิมแล้ว รสชาติคล้ายลูกอมแฮ็คส์บ้านเรา คาดว่าเพราะใช้ส่วนผสมเดียวกันแน่เลย

ตอนนั้นได้โอกาส นั่งรถออกไปนอกกรุงเอเธนส์ด้วย ที่จำได้ดีคือ Cape Sounion อยู่บนเหมือนแหลมมองออกไปเห็นทะเล Aegean นั่งรถออกตอนบ่าย ถึงตอนตะวันตกพอดีสีสวยมาก บนนั้นมีวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยก่อนคริสตสักราช สร้างแด่เทพ Poseidon เทพแห่งทะเล นอกจากนั้นก็มีออกไปเกาะ 3 แห่งที่ไม่ไกลจากกรุงเอเธนส์ ชื่อ Hydra, Poros, Aegina เป็นบ้านเมืองบนเกาะที่จัดได้น่ารักมาก มีร้านค้าสำหรับนักท่องเที่ยวระหว่างทาง ร้านกาแฟ มีสีสรรมาก

ประเทศกรีกมีชื่อเสียงโดยทั่วไปเช่น จากเรื่อง My Fat Greek wedding หรือล่าสุดเรื่อง Mamma Mia ซึ่งถ่ายทำบนเกาะ ทะเลสวยมาก หรือนักร้องเสียงมีพลัง Elftheria Arvanitaka (มีโอกาสได้ไปดูคอนเสริต เสียงน่าประทับใจมาก ขนลึกไปหมด ถึงแม้จะไม่เข้าใจความหมายก็ตาม) ประเพณีอีกอย่างที่อยากเล่าสู่กันฟังคือ ประเพรีเต้นรำ ขว้างจาน (smash plates) ซึ่งเป็นการให้กำลังใจนักดนตรี หรือนักเต้น แต่จริงๆแล้วอาจเป็นอันตรายได้ ทั้งบาดขาหรือกระเด้นเข้าตา แม้ว่าจะสนุกก้ตาม เดี๋ยวนี้ก็อาจจะตะโกนว่า 'Opa!" หรือตบมือแทนถ้ามีอารมณ์ร่วม

การไปประเทศกรีกครั้งนี้มีเวลาน้อยแต่ถ้ามีดอกาส ไปอีก ประเทศกรีก มีอีกหลายที่ประทับใจ เช่นเกาะ Crete ที่ยังมีประเพณีที่ยังอนุรักษ์ดั้งเดิมมากมาย Meteora ซึ่งเป็นสถานที่อนุลักษณ์ของโลก อยู่ใน UNESCO ที่มี วิหารอยู่บนเขา และที่มีวิวติดตาคือ เกาะ Santorini ที่เป็นบ้านสีขาว หลังคาสีฟ้า หวานมาก ถ้ามีโอกาสก็อยาก ไปเห็นด้วยตัวเอง แต่โดยรวมประทับใจในสถาปัตยกรรมโบราณ ซึ่งยังเห็นได้ในความทันสมัยในปัจจุบัน



Turkey--from Antalya, Ephesus to Pammukkale

ตอนที่ไปประเทศกรีก ได้ยินไกด์พูดถึงประเทศตุรกีมาก อาจเพราะเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกัน ประเทศตุรกีมีที่ตั้งที่ตั้งที่เป็นยุทธศาสตร์ เป็นขอบระหว่างทวีปเอเซีย และทวีปยุโรป เพราะที่ตั้งคาบเกี่ยวระหว่างทวีป วัฒนธรรมของประเทศตุรกีจึงมี ความโดดเด่นจากทั้งทางตะวันตกและตะวันออก

ประเทศตุกี มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เป็นสมาชิกของ OECDและเป็นหนึ่ง ใน G२० แต่ตอนช่วงที่ไปปี 2004 เศรษฐกิจของตุรกี เผชิญปัญหาเงินเฟ้อมาก ค่าเงินเฟ้อมาก พอแลกเงินไลรา (Lira)เสร็จ แทบจะกลายเป็นเศรษฐีเงินแสน เงินล้านกันเป็นแถว แต่ก็ไม่ใช่จะซื้ออะไรได้มาก แต่หลังจากการปฏิรูปเศรษฐกิจตอนหลัง เศรษฐกิจก็มีเสถียรภาพมากขึ้น
เข้าเรื่องเที่ยวกันบ้าง แตงและ แครอล ไปประเทศตุรกีเดือน กันยายน หลังจากไประเทศกรีกไม่นาน ช่วงนั้นอากาศกำลังดี หลังฤดูร้อน เข้าฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน และตุลาคม) อีกฤดูกาลที่น่าเที่ยว คือฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม) ในช่วงฤดูหนาว (ธันวามคม ถึงมีนาคม) เมืองทางเหนือเช่น อิสตันบูลหนาวมาก ฤดูร้อนก็อาจร้อนมากกว่า 40C องศาเซลเซียส และเป็นฤดูกาลที่ราคาอาจค่อนข้างสูง(high season) เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ
ตอนนั้นไปกับทัวร์จากเจนีวา ประมาณอาทิตย์กว่า ทั้งทัวร์มี ประมาณ ३० คน ทั้งทัวร์พูดเป็นภาษาฝรั่งเศส ตอนนั้นภาษาเราก็ไม่แข็งแรงเท่าไหร่ กลัวสุดก็เวลาเขานัดเวลาต้องฟังให้ดี ดีนะที่ แครอลไปด้วย เขาบรรยายก็ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องซะเยอะ ต้องถือหนังสือไกด์วิ่งตาม พอไปถึงตอนแรก ก็ไปลงที่เมืองทางใต้ชื่อ Antalya, เมืองอื่นที่โดดเด่นคืออาณาจักรเก่า Ephesus และไปสิ้นสุดที่ภูเขากลางประเทศชื่อPamukkaleนั่งรถทัวร์ตลอดคาดว่าน่าจะเป็นพันกิโลเมตร ที่เที่ยวที่ประทับใจมากคือ เชื่อหรือไม่ ห้องสมุดโบราณค่ะ The Celsus Library เป็นเหมือนตึก 2 ชั้น เป็นแต่ข้างหน้า ที่เมือง Ephesus ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ กว้างเห็นเป็นทางเดิน ตึกต่างๆ รวมทั้งที่สำคัญคือ เป็น theatre ลานที่นั่งจุคนได้กว่า 25,000 คน นี่เราพูดถึงสิ่งที่สร้างกว่า 2,000 ปีมาแล้ว จำได้ว่านั่งดูไปก็คิดถึงอารยธรรมสมัยนั้น เมืองต่อไปที่จะต้องพูดถึงคือ เมือง Hierapolis ซึ่งเป็นเมืองเก่าอยู่บน Pamukkale เป็นที่อนุรักษ์ของโลกตาม UNESCO ที่มีชื่อเรียกว่า ปราสาทปุยนุ่น (Cotton Castle) ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นสปาน้ำแร่ ตังแต่สมัยก่อน คนมาอาบรักษาความเจ็บป่วย ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งคนก็ยังมาแช่ตัวอยู่ ไกดืพาไปกินน้ำแร่ที่ลงมาจากภูเขาด้วย เค็มนิดหน่อย แต่ซ่าเหมือนเปิดจากขวดเลย

ระหว่างทัวร์ก็มีโอกาสได้เห็นวัฒนธรรมหลายอย่างที่เป็นเช่น การทำพรม ซึ่งมีชื่อเสียงทางเอเซียกลาง ซึ่งแพร่กระจายวิธีการถักทอด้วยผู้ที่อพยพโยกย้ายถิ่นฐาน ถักทอแบบท้องถิ่นไม่ได้ใช้เทคโนโลยีมาก handmade จริงๆ (เคยสงสัยมาตั้งแต่เด็กว่าทำไมพรมเขา ใช้ปูที่พื้น ไหงไปปูผนัง) นั่งดูพรมไปก็จิบชาแอปเปิ้ล (Apple tea) หอม แต่ไม่หวานมาก จริงๆ และเครื่องดื่มอื่นเช่น ชาดำ (black tea) หรือกาแฟตุรกี (turkish coffee) ก็มีชื่อเสียงมาก โดยเฉพาะเวลาทานกับขนมหวานเขา เช่น turkish delight คล้ายเจลลี่หวานหน่อ กินกับกาแฟขมๆ เข้ากันดี หรือ ขนมหวาน baklava ซึ่งทำจากแป้งเป็นชั้นๆ โรยถั่ว และเคลือบด้วยไซรัปหรือน้ำผึ้ง ไอศกรีมถั่งพิวตาชิโอก็หอมหวานมันมาก อีกอย่างที่สังเกตคือคนมาสังสรรค์ดื่มนำชา กาแฟดูทีวี ส่วนมากเป็นผู้ชาย บางคนก็สูบ ชิชา (shisha) หรือ ฮูกา (hookah) ซึ่งถ้าเป็นรสแอปเปิ้ล ก็หอมชื่นใจดี

ก็ต้องขอจบการเดินทางประเทศตุรกีภาคนี้ไว้ตรงนี้ก่อน แต่ถ้าครั้งหน้ามีโอกาสไปลงที่อิสตันบูลก็อยากจะไปดูมัสยิดสีฟ้า (หรือสุเหร่า ต้องขออภัยถ้าใช้คำผิด) The Sultan Ahmed Mosque (Blue Mosque) เนื่องจากอยู่ประเทศออสเตรเลียมาหลายปี ได้ยินเกี่ยวกับ Gallipoli โดยเฉพาะช่วง Anzac Day เดือนเมษายนของทุกปี Ankara ซึ่งเป็นเมืองราชการ แต่ที่อยากไปมากจริงๆ คือ เมืองชื่อ Cappadocia เป็นเมืองที่อยู่ในหินที่ฟอร์มตัวเป็นล้านปี (บางที่ปิดช่วงฤดูหนาว) เห็นรูปทุกทีก็เกิดอาการอยากไปมากๆๆ ยังไงก็ขอแนะนำสำหรับคนที่สนใจ สำหรับคนไทย ต้องใช้ขอวีซ่า แต่ก็ไม่ยุ่งยากมาก ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.e-konsolosluk.net/ และสายการบินประจำชาติของประเทศตุรกี http://www.thy.com/ จากเมืองไทย ก็น่าสนใจ

0 Comments:

Post a Comment

<< Home