10/15/2006

ชีวิต...ก็เป็นเช่นนี้แหละ

กาลครั้งหนึ่ง มีชาวนาคนหนึ่ง ด้วยความยากจนจึงต้องใช้ม้าแก่ไถนาเพราะไม่มีเงินซื้อแทรกเตอร์ไถนา บ่ายวันหนึ่ง ขณะกำลังไถนา ม้าแก่หมดแรงล้มลงขาดใจตาย ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็พูดว่า

“โอ้โชคชะตา ช่างโหดร้ายกับชาวนาผู้น่าสงสารเหลือเกิน“
ชาวนาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

ด้วยความสุขุม สงบนิ่ง ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็ยกย่องชมเชย และเห็นใจจึงช่วยกันเรี่ยไร ซื้อม้าตัวใหม่ให้ชาวนาและกล่าวอย่างภาคภูมิใจใ กุศลเจตนาว่า “ลุงโชคดีนะ ที่มีพวกเราคอยให้ความช่วยเหลือ”
ชาวนาตอบว่า “ขอบคุณ ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

2–3 วันต่อมา ม้าตัวใหม่ของชาวนาตื่นตกใจกระโดดข้ามรั้วหนีหายเข้าป่าไป ทุกคนในหมู่บ้านต่างส่ายศีรษะได้แต่พูดกับชาวนาว่า “ลุงเอ๋ย กรรมช่างไม่หยุดยั้งซ้ำเติมลุงเลยนะ“
ชาวนายิ้มและพูดว่า “ช่างเถอะ ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

แต่ไม่กี่วันต่อมา ม้าตัวใหม่นี้ก็หาทางกลับบ้านได้ถูกมาอยู่กับชาวนาต่อไป ทุกคนต่างก็แวะมาแสดงความดีใจกับชาวนา และพูดว่า “หมดเคราะห์ หมดกรรมเสียทีนะ ลุงนะ“
ชาวนาตอบว่า “ขอบคุณ ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

ปีต่อมา ลูกชายชาวนาตกจากหลังม้าและขาหัก ทุกคนก็มาเยี่ยมและพูดว่า “หนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร เสียใจด้วยนะ ขอให้หายวันหายคืน“
ชาวนาตอบว่า “ขอบคุณ ไม่เป็นไร เด็กหนุ่มไม่กี่วันก็หาย ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

2 วันต่อมา นายทหารจากกองทัพได้เข้ามาในหมู่บ้านเพื่อเกณฑ์ทหารจากชายหนุ่มในหมู่บ้านเพราะอยู่ในช่วงสงครามต้องการทหารเป็น จำนวนมาก ลูกชาวนาก็ได้รับการยกเว้นเพราะขาหัก ทุกคนต่างก็มาแสดงความยินดีกับชาวนา
ชาวนายิ้มอย่างอ่อนโยนและตอบว่า “ขอบคุณ ชีวิต ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

ท่านได้ข้อคิดอะไรจากนิทานเรื่องนี้ ?

********************************

ข้อคิดจากนิทาน “ชีวิต...ก็เป็นเช่นนี้แหละ“

ชีวิต มีแพ้ มีชนะ มีสุข และมีทุกข์
ยามแพ้ หรือมีทุกข์ อย่าท้อแท้ หมดหวังหมดกำลังใจ เพราะชัยชนะรออยู่เบื้องหน้า ถ้าเราไม่แพ้ใจเสียก่อน สู้ต่อไป
ยามชนะ หรือมีสุข ก็อย่าหลงระเริงว่าความสุข หรือชัยชนะจะเป็นของเราตลอดไป เพราะความทุกข์และความพ่ายแพ้พร้อมจะก้าวเข้ามาได้ทุกเมื่อ ดังนั้น เราจะต้องดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท อย่าตื่นเต้นดีใจ หรือ เศร้าโศกเสียใจจนเกินเหตุกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรา เมื่อนั้นแหละ...เราจึงจะได้ชื่อว่าผู้เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง เพราะได้เข้าถึงสัจธรรมอย่างแท้จริง

จากเรื่องเดิม...We’ll see.

ผู้แปลและเรียบเรียง
อนุกูล เยี่ยงพฤกษาวัลย์

0 Comments:

Post a Comment

<< Home